กำหนดการรับสมัครโครงการ Work and Holiday Visas (WHV) ไทย - ออสเตรเลีย และ Working Holiday Scheme (WHS) ไทย – นิวซีแลนด์ ประจำปี 2559
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กำหนดการรับสมัครโครงการ Work and Holiday Visas (WHV) ไทย - ออสเตรเลีย และ Working Holiday Scheme (WHS) ไทย – นิวซีแลนด์ ประจำปี 2559
คุณสมบัติ ออสเตรเลีย
ผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ
จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุระหว่าง 18 – 30
ปี (อายุยังไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นขอวีซ่ากับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
ประจำประเทศไทย)
3. สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป
4. มีหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
5. ต้องเดินทางคนเดียว (ไม่มีผู้ติดตาม)
6. มีหลักฐานทางการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์
(ของผู้สมัครเอง) จำนวน 5,000
ดอลลาร์ออสเตรเลีย
7. มีความประพฤติและสุขภาพดี
หลักฐานการยื่นขอหนังสือรับรองคุณสมบัติจาก ดย.
ตามข้อตกลงของโครงการฯ
ผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย จะต้องแนบหลักฐาน
หนังสือรับรองคุณสมบัติ ซึ่งออกให้โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ การสมัครขอรับหนังสือรับรองคุณสมบัติดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องยื่นแสดงเอกสารสำคัญ
ดังนี้
1. ใบสมัคร (พิมพ์มาจากการสมัครผ่านทางระบบออนไลน์)
2. ปริญญาบัตร/ใบรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
3. ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
4. หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า
6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
5. บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1
ชุด
6. ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
7. หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้
โดยต้องแนบหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด
คือ
1) ผลการสอบ
IELTS
(ประเภทใดก็ได้) ไม่ต่ำกว่า 4.5 มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรือ
2) ผลการสอบ
TOEFL ระดับคะแนน มีอายุไม่เกิน
1 ปี
-
133 on
a computer based test
- 450 on a
paper based test
- 45 – 46
on an internet-based test
หรือ
3) ใบรับรอง
หรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา 2 ปี
จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียน การสอน หรือ
4) หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา
(Primary) และมัธยมศึกษา (3 years of secondary
education) จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียน การสอน หรือ
5) หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา
5 ปี (5
years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
6) สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร
1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือ
ประกาศนียบัตร
8.
หลักฐานทางการเงินซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ของผู้เดินทาง) ไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์
ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝาก
จากธนาคาร โดยชื่อบัญชีจะต้องเป็นชื่อของผู้เดินทางเท่านั้น
9.
แผนการเดินทางโดยคร่าว ๆ และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ในออสเตรเลีย
(เขียนสรุปไม่เกิน 1 หน้า เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ)
10.
บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนามเรียบร้อยแล้ว (สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มจาก
เว็บไซต์ภายหลังจากสมัครผ่านระบบออนไลน์)
11.
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง
12.
สำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครอง
หมายเหตุ 1. ให้นำหลักฐานฉบับจริง
พร้อมสำเนาและลงลายมือชื่อรับรองสำเนาทุกฉบับมายื่นพร้อมเอกสารอื่น ๆ ยกเว้นทะเบียนบ้าน
และบัตรประจำประชาชนของผู้ปกครองหากไม่สามารถยื่นฉบับจริง
อนุโลมให้ใช้สำเนาแทน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
2. เอกสารหลักฐานประกอบการขอวีซ่าอื่น ๆ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
ประจำประเทศไทย ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์
http://www.thailand.embassy.gov.au/bkok/Visas_and_Migration.html
วิธีการ/ขั้นตอนการรับสมัคร
1. การสมัครโดยผ่านระบบออนไลน์ (Online) ทางเว็บไซต์ของ ดย. http://dcy.go.th/webnew/main/ ในวันที่ 3 มิถุนายน 2559 โดยระบบจะเปิดให้บริการในวันที่
3 มิถุนายน2559 เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ หากมีผู้สมัครครบเต็มจำนวนที่กำหนด ก่อนช่วงเวลาการรับสมัคร
ระบบจะปิดทำการรับสมัครทันที
2. จำนวนที่เปิดรับสมัคร
ในปี
2559 ดย. จะดำเนินการเปิดรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 700 คน และออกหนังสือรับรองฯ
จำนวน 500 คน โดยกำหนดให้
· ผู้สมัครออนไลน์ได้ลำดับที่
1 - 200* จะต้องมายื่นเอกสารที่ ดย. ด้วยตนเอง
ในวันที่ 18 มิถุนายน 2559 เท่านั้น (เลขที่สมัครจะปรากฏบนใบสมัคร)
· ผู้สมัครออนไลน์ได้ลำดับที่
201 - 500* จะต้องมายื่นเอกสารที่ ดย. ด้วยตนเอง
ในวันที่ 19 มิถุนายน 2559 เท่านั้น (เลขที่สมัครจะปรากฏบนใบสมัคร)
· ผู้สมัครที่ได้ลำดับสำรอง
501 - 700* เป็นผู้ขึ้นทะเบียนลำดับสำรอง จะต้องรอประกาศจากทาง ดย. ในการขอเรียกตรวจเอกสาร
โดย ดย. จะประกาศเรียกตรวจเอกสารผ่านทางเว็บไซต์
ในกรณีที่มีผู้สมัครลำดับที่ 1 - 500สละสิทธิ์หรือคุณสมบัติไม่ครบถ้วน
· ผู้สมัครออนไลน์ได้ลำดับที่
1 - 500 ที่เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง จะได้รับหนังสือรับรองที่มีอายุใช้งานตั้งแต่วันที่
1 กรกฎาคม - 30 ธันวาคม 2559 หากเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง
สามารถมารับหนังสือรับรองได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
*กรณีที่มีผู้สมัครออนไลน์ได้ลำดับที่ 1 - 500
แต่ขาดคุณสมบัติหรือเอกสารไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ในขั้นตอนการตรวจเอกสาร ดย.
มีสิทธิ์ที่จะพิจารณาตัดสิทธ์ผู้สมัครในลำดับนั้น
กรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นเอกสารแทนนั้น
สามารถทำได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และมีเอกสารรับรองมายื่นประกอบ ได้แก่
ใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความ และหนังสือรับรองจากหน่วยงาน เท่านั้น
3. เอกสารประกอบการสมัครผ่านระบบ Online
ในการกรอกใบสมัครผ่านระบบออนไลน์
ผู้สมัครควรเตรียมพร้อมข้อมูลส่วนตัว ดังนี้
1)
เลขประจำตัวประชาชน
2)
ชื่อ-สกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ)
3)
วัน เดือน ปีเกิด
4)
ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
5)
ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อม เบอร์โทรศัพท์มือถือ และe-mail
address
6)
ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
7)
ข้อมูลบุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
4. วิธีการเข้าสู่ระบบ
Online
ผ่านทางเว็บไซต์ของ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)
รายละเอียดจะประกาศให้ทราบภายหลัง
5. การยื่นเอกสาร
1) ใบสมัครที่พิมพ์ออกมาจากการสมัครทางออนไลน์
2) บันทึกข้อตกลงที่ดาวโหลดไฟล์มาจากในเว็บไซต์ พร้อมลงลายมือชื่อของผู้สมัคร
ผู้ปกครอง และพยาน
3) เอกสารและหลักฐานตามที่ระบุในข้อ 3
ใช้ฉบับจริงพร้อมสำเนาและรับรองทุกฉบับ
4) กรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นเอกสารแทนนั้น
สามารถทำได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และมีเอกสารรับรองมายื่นประกอบ ได้แก่
ใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความ และหนังสือรับรองจากหน่วยงาน เท่านั้น
หากเอกสารไม่ครบถ้วน/ไม่ถูกต้อง และผู้มายื่นเอกสารแทนไม่สามารถชี้แจงได้ ถือเป็นสิทธ์ขาดของเจ้าหน้าที่ในการพิจารณาออกหนังสือรับรอง
6. การยื่นเอกสาร
1) ใบสมัครที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว โดยพิมพ์ออกมาจากการสมัครทางออนไลน์
2) บันทึกข้อตกลงที่ดาวโหลดไฟล์จากในเว็บไซต์ ดย. พร้อมลงลายมือชื่อของผู้สมัคร
ผู้ปกครอง และพยาน
3) เอกสารและหลักฐาน ตามที่ระบุในข้อ 3 ใช้ฉบับจริงพร้อมสำเนา และรับรองสำเนาทุกฉบับ
4) กรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นเอกสารแทนนั้น
สามารถทำได้ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และมีเอกสารรับรองมายื่นประกอบ ได้แก่
ใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความ และหนังสือรับรองจากหน่วยงาน
เท่านั้น ทั้งนี้หากเอกสารไม่ครบถ้วน/ไม่ถูกต้อง
และผู้มายื่นเอกสารแทนไม่สามารถชี้แจงเพิ่มเติมได้ ถือเป็นสิทธ์ขาดของเจ้าหน้าที่ในการพิจารณาออกหนังสือรับรอง
7. การรับหนังสือรับรองคุณสมบัติ
1) กำหนดรับหนังสือรับรอง วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
2) แสดงหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน
3) กรณีให้ผู้มารับแทน ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ
พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัว
ประชาชนของผู้สมัครและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
4) ลงลายมือชื่อรับหนังสือรับรองไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่
ดย.
หลักฐานประกอบการขอตรวจลงตราหนังสือเดินทาง
(วีซ่า) ประเภท Work and Holiday Visa (Subclass 462) กับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
1.
แบบฟอร์ม 1208 (Work and Holiday Visa) โดยสามารถ
download ได้จาก
2.
รูปถ่ายสีขนาด 4.5 x 3.5 ซม. จำนวน 2
รูป
3.
หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก ดย. (ฉบับจริง)
4.
หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุการใช้งานคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
5.
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
6.
สำเนาทะเบียนบ้าน
7.
หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้
โดยแนบหลักฐาน
อย่างหนึ่งอย่างใด
คือ
1) ผลการสอบ
IELTS
(ประเภทใดก็ได้) ไม่ต่ำกว่า 4.5 มีอายุไม่เกิน 1
ปี ตามประกาศเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลออสเตรเลีย
ในปี 2558 อ้างอิง
หรือ
2) ผลการสอบ TOEFL ระดับคะแนน
-
133 on
a computer based test
- 450 on a paper based test
- 45 – 46 on an internet-based
test หรือ
3) ใบรับรอง
หรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ที่มีระยะเวลา
2 ปี จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการเรียนการสอน หรือ
4) หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษา (3 years of secondary
education)
จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการเรียนการสอน หรือ
5) หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of
secondary education)
จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
6) สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร
1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือ
ประกาศนียบัตร
8.
หลักฐานทางการเงินของผู้เดินทางไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือ
ใบรับรองทางการของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร
9.
ค่าธรรมเนียมตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) 420 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ
13,000 บาท (ค่าธรรมเนียมมีการเปลี่ยนแปลงทุกๆ
6 เดือน)
10.ใบตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียกำหนด
ตรวจรายชื่อโรงพยาบาลจาก http://www.immi.gov.au/Help/Locations/Pages/Thailand.aspx โดยแจ้งแพทย์ผู้ตรวจว่าต้องการสมัคร
Work and Holiday Visa ของออสเตรเลีย
11.แผนการเดินทางโดยคร่าว
ๆ และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ในออสเตรเลีย
(เขียนสรุปไม่เกิน 1 หน้า เป็นภาษาอังกฤษ)
12.หนังสือให้ความยินยอมจากผู้ปกครองเป็นภาษาอังกฤษ
(Parent
Permission Letter)
พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
13. เอกสารทางการศึกษา ปริญญาบัตร และ Transcript
13.ยื่นเอกสารเพื่อขอรับการตรวจประทับลงตราหนังสือเดินทาง
(VISA) ตัวแทนรับยื่นวีซ่า
ศูนย์ยื่นวีซ่าประเทศออสเตรเลีย The Trendy Office
Building 28th Floor,
Sukhumvit Soi 13,
Klongtoey-Nua, Wattana,
Bangkok 10110 (BTS NANA, ทางออกหมายเลข
3)
เวลาทำการ : 8.30 น. – 16.30
น. วันจันทร์ ถึง วันศุกร์
ยกเว้นวันหยุดของสถานทูตออสเตรเลีย
เวลายื่นใบสมัคร : 8.30 น. – 15.00
น.
เบอร์โทรศัพท์ :02 118 7100
ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น.
วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดของสถานทูตออสเตรเลีย
หรืออีเมล : info.dibpth@vfshelpline.com
โดยเอกสารที่เป็นภาษาไทย
จะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย
14.ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองตลอดระยะเวลาของการพักอาศัยในประเทศออสเตรเลีย
ทั้งการเดินทาง ค่าครองชีพ และการมีประกันสุขภาพ ต้องหาที่พัก
และสมัครงานด้วยตนเอง
สามารถท่องเที่ยวสลับกับการทำงาน และทำงานกับนายจ้าง
คนเดียวกันได้ ไม่เกิน 6 เดือน
ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนงานหรือเดินทางท่องเที่ยว
หมายเหตุ 1.
เอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอวีซ่าให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของ
สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย
ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบรายละเอียด
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ http://www.thailand.embassy.gov.au/bkok/Visas_and_Migration.html
2. สถานที่ติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
ประจำประเทศไทย
37 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120
โทร. 0 2287 2680 หรือ 0 2344 6300 โทรสาร 0
2344 6593
คำเตือน
1. ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัครและ/หรือจัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด
เนื่องจากผิดจุดประสงค์ของโครงการและอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า
รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้
2. วีซ่าประเภทนี้มิใช่วีซ่าทำงาน ดังนั้น
หากพบว่าทำงานประจำ ณ ที่ใดเกินกว่า 6 เดือน จะถือว่าได้ทำผิดกฎหมาย
อาจถูกถอนวีซ่าและถูกส่งกลับ
หากมีข้อสงสัยใด
ๆ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ในวันและเวลาราชการที่
กลุ่มส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
กองส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชน
กรมกิจการเด็กและเยาวชน
618/1
ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร./โทรสาร 0 2651 6534
รายละเอียด
----------------------------------------------------------------------
เมื่อได้รับการตรวจลงตราแล้ว
ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนิวซีแลนด์สามารถทำงานที่ถูกกฎหมายได้ทุกประเภท
ยกเว้นธุรกิจบริการทางเพศ โดยต้องเสียภาษีเงินได้และต้องไม่ทำงานกับนายจ้างคนหนึ่งคนใดเกินกว่า
3 เดือน และเข้ารับการศึกษาอบรมได้ไม่เกิน 3 เดือน เยาวชนไทยที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ที่เว็บไซต์ของสถานทูตเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย หรือ www.immigration.govt.nz
รายละเอียด
----------------------------------------------------------------------
คุณสมบัติ นิวซีเลนด์
ผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ
จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุระหว่าง 18 – 30
ปี (อายุยังไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นขอวีซ่ากับสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย)
3. ต้องเดินทางคนเดียว (ไม่มีผู้ติดตาม)
4. สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป
5. มีหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
6. มีหลักฐานทางการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์
(ของผู้สมัครเอง) จำนวน 7,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์
7. มีความประพฤติและสุขภาพดี
หลักฐานประกอบการขอหนังสือรับรองคุณสมบัติ
ตามข้อตกลงของโครงการฯ
ผู้สมัครที่จะยื่นขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย
จะต้องแนบหลักฐาน หนังสือรับรองคุณสมบัติ ซึ่งออกให้โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้
การสมัครขอรับหนังสือรับรองคุณสมบัติดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องยื่นแสดงเอกสารสำคัญ
ดังนี้
1. ใบสมัคร (พิมพ์มาจากการสมัครผ่านทางระบบออนไลน์)
2. ปริญญาบัตร/ใบรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
3. ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
4. หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า
6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
5. บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1
ชุด
6. ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
7. หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้
โดยต้องแนบหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด
คือ
1) ผลการสอบ
IELTS
(ประเภทใดก็ได้) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4.5 มีอายุไม่เกิน 2 ปี หรือ
2) ใบรับรองหรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา
2 ปี (Post-secondary qualification of 2 years full – time study) จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
3) หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary)
และมัธยมศึกษาตอนต้น (3 years of
secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
4) หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา
5 ปี (5
years of secondary education)
จากโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
8. หลักฐานทางการเงิน ซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) จำนวน 7,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร
9. แผนการเดินทางโดยคร่าว ๆ
และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ (เขียนสรุปไม่เกิน
1 หน้า เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ)
10.บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนามเรียบร้อยแล้ว (สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์ภายหลังจากการสมัครผ่านระบบออนไลน์)
11. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง
12. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครอง
หมายเหตุ 1. ให้นำหลักฐานฉบับจริง
พร้อมสำเนาและลงลายมือชื่อรับรองสำเนาทุกฉบับมายื่นพร้อมเอกสารอื่นๆ ยกเว้นทะเบียนบ้าน
และบัตรประจำประชาชนของผู้ปกครอง หากไม่สามารถยื่นฉบับจริง
อนุโลมให้ใช้สำเนาแทน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
2. เอกสารหลักฐานประกอบการขอวีซ่าอื่นๆ
ให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ
สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์
ประจำประเทศไทย ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบ
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์
http://www.immigrtion.govt.nz
http://www.immigration.govt.nz/migrant/stream/work/workingholiday/thailandwhs.htm
กระบวนการและขั้นตอนการรับสมัคร
1. การสมัครโดยผ่านระบบออนไลน์ (Online) ทางเว็บไซต์ของ ดย. http://dcy.go.th/webnew/main/ ในวันที่
1 มิถุนายน 2559 โดยจะเปิดระบบให้บริการในวันที่
1 มิถุนายน 2559
เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ หากมีผู้สมัครครบเต็มจำนวนที่กำหนด ก่อนช่วงเวลาการรับสมัคร ระบบจะปิดทำการรับสมัครทันที
2. จำนวนที่เปิดรับสมัคร ในปี 2559 ดย.
จะดำเนินการรับสมัครออนไลน์และออกหนังสือรับรอง จำนวน 150 คน โดยกำหนดให้
· ผู้สมัครออนไลน์ในลำดับที่
1 - 150 จะต้องมายื่นเอกสารที่ ดย. ในวันที่ 18 มิถุนายน 2559 เท่านั้น
· ผู้สมัครออนไลน์ในลำดับที่
1 - 150 ที่มีเอกสารถูกต้อง ครบถ้วน จะได้รับหนังสือรับรอง และจะมีอายุใช้งานระหว่างวันที่
1 กรกฎาคม - 30 ธันวาคม 2559
3. เอกสารประกอบการสมัครระบบ Online
ในการกรอกใบสมัครผ่านระบบออนไลน์
ผู้สมัครควรเตรียมพร้อมข้อมูลส่วนตัว ดังนี้
1)
เลขประจำตัวประชาชน
2)
ชื่อ-สกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ)
3)
วัน เดือน ปีเกิด
4)
ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
5)
ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อม เบอร์โทรศัพท์มือถือ และe-mail
address
6)
ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
7)
ข้อมูลบุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
4. วิธีการเข้าสู่ระบบ
Online
ผ่านทางเว็บไซต์ของ
กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) รายละเอียดจะประกาศให้ทราบ
ภายหลัง
5. การยื่นเอกสาร
1) ใบสมัครที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว โดยพิมพ์ออกมาจากการสมัครทางออนไลน์
2) บันทึกข้อตกลงที่ดาวโหลดไฟล์จากในเว็บไซต์ ดย. พร้อมลงลายมือชื่อของผู้สมัคร
ผู้ปกครอง และพยาน
3) เอกสารและหลักฐาน
ตามที่ระบุในข้อ 3 ใช้ฉบับจริงพร้อมสำเนา และรับรองสำเนาทุกฉบับ
4) กรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นเอกสารแทนนั้น
สามารถทำได้ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และมีเอกสารรับรองมายื่นประกอบ ได้แก่
ใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความ และหนังสือรับรองจากหน่วยงาน
เท่านั้น ทั้งนี้หากเอกสารไม่ครบถ้วน/ไม่ถูกต้อง
และผู้มายื่นเอกสารแทนไม่สามารถชี้แจงเพิ่มเติมได้ ถือเป็นสิทธ์ขาดของเจ้าหน้าที่ในการพิจารณาออกหนังสือรับรอง
6. การรับหนังสือรับรองคุณสมบัติ
1) กำหนดรับหนังสือรับรอง วันที่ 1
กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
2) แสดงหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน
3) กรณีให้ผู้มารับแทน ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ
พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
4) ลงลายมือชื่อรับหนังสือรับรองไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่
ดย.
หลักฐานประกอบการยื่นขอตรวจลงตราหนังสือเดินทาง
(วีซ่า) ประเภท Working Holiday Scheme
กับสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย
ผู้สมัครจะต้องทำการยื่นขอวีซ่าออนไลน์
โดยภายหลังการยื่นขอวีซ่าออนไลน์ ผู้สมัครจะได้รับข้อมูลการตอบกลับจากสถานทูตฯ ทางe-mail
พร้อมแจ้งรายละเอียดเอกสารต่างๆ ที่ต้องยื่น การสมัครขอวีซ่าสามารถสามารถดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์
รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร
ที่ต้องยื่นประกอบการขอวีซ่า มีดังนี้
1. หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก ดย. (ฉบับจริง)
2. หนังสือเดินทาง (Passport)
มีอายุการใช้งานคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
5. หลักฐานการเงินของผู้เดินทางไม่น้อยกว่า
7,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือใบรับรองทางการเงิน หรือ Bank Statement
6. ค่าธรรมเนียมตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) เป็นเงิน
4,300 บาท
7. แบบฟอร์มผลการตรวจวัณโรค (INZ 1096) ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน จากโรงพยาบาลที่ได้รับการยอมรับจากสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์
ประจำประเทศไทย
8.
หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้ โดยแนบหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด คือ
1)
ผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 4.5
มีอายุไม่เกิน 2 ปี หรือ
2)
ใบรับรองหรือประกาศนียบัตร ที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา 2 ปี (Post-secondary
qualification of 2 years full – time study) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
หรือ
3)
หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้น (3
years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
4)
หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา
5 ปี (5
years of secondary education)
จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
9. เอกสารทางการศึกษา ได้แก่ ปริญญาบัตรและ Transcript
10.
ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองตลอดระยะเวลาของการพักอาศัยในประเทศนิวซีแลนด์ ทั้งการเดินทาง
ค่าครองชีพ และการมีประกันสุขภาพ ต้องหาที่พัก และสมัครงานด้วยตนเอง
สามารถท่องเที่ยวสลับกับการทำงาน และทำงานกับนายจ้างคนเดียวกันได้
ไม่เกิน 3 เดือน ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนงานหรือเดินทางท่องเที่ยว
11. เมื่อได้รับวีซ่าแล้ว
ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนิวซีแลนด์สามารถทำงานที่ถูกกฎหมายได้ทุกประเภท
ยกเว้นธุรกิจบริการทางเพศ รวมทั้งต้องเสียภาษีเงินได้
12. การทำประกันสุขภาพที่จะคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่อยู่นิวซีแลนด์
(เมื่อได้รับอนุมัติวีซ่าแล้วเท่านั้น)
หมายเหตุ 1. เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่า
ที่เป็นภาษาไทย ไม่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ยกเว้นแต่ กรณีที่สถานทูตนิวซีแลนด์
ประจำประเทศไทย ขอเพิ่มเติม
2. เอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอวีซ่า
ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของ
สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ทั้งนี้
ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ http://www.immigrtion.govt.nz
3. สถานที่ติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย
ชั้น 15 อาคารเอ็มไทยทาวเวอร์
ออลซีซั่นเพลส 87 ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Tel: +66 2 254 2530 Fax: +66 2 253 9045 หรือ
253 0249
E-mail:
info@newzealandembassybkk.com
คำเตือน
1. ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัครและ/
หรือจัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของโครงการและอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้
2. วีซ่าประเภทนี้ มิใช่วีซ่าเพื่อการทำงาน
ดังนั้น หากพบว่าทำงานประจำ ณ ที่ใดเกินกว่า 3เดือน จะถือว่าได้กระทำผิดกฎหมาย อาจถูกเพิกถอนวีซ่าและถูกส่งกลับ
หากมีข้อสงสัยใด
ๆ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ในวันและเวลาราชการที่
กลุ่มส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
กองส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชน
กรมกิจการเด็กและเยาวชน
618/1
ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร./โทรสาร
0 2651 6534
(ในวันและเวลาราชการ)รายละเอียด